นักเรียนฝึกใหม่หรือคนตัวแข็งมักจะบ่นว่า ไม่ว่าจะก้ม แอ่น บิดตัว จะทำท่าไหนๆก็รู้สึกตึงไปหมด ไม่เหมือนคนตัวอ่อน ดูเค้าทำแล้วเหมือนจะแสนง่ายและสบาย ไม่ดูทรมานอย่างคนตัวแข็ง สิ่งที่ต้องจำไว้คือ อย่าเปรียบเทียบตัวเรากับคนอื่นนะคะ เพราะแต่ละคนมีสรีระร่างกาย วัย และการดำเนินชีวิตรวมถึงอุปนิสัยการกินอยู่ต่างกัน แม้ว่าเราจะตัวแข็งก็ไม่ต้องท้อใจไปค่ะ เพราะน้องมีข้อดีของการเป็นคนตัวแข็งมาบอกค่ะ
สิ่งที่เห็นได้ชัดเจนสำหรับคนตัวแข็งเวลาฝึกโยคะ คือ จะไม่ค่อยได้รับการบาดเจ็บ โดยเฉพาะการบาดเจ็บที่รุนแรง เพราะความตึงของร่างกาย กล้ามเนื้อเราจะส่งสัญญาณไปยังสมองบอกให้เรา "หยุด" ถ้าฝืนไปต่อ เราจะบาดเจ็บทันที โดยส่วนใหญ่แล้ว พอเรารู้สึกเจ็บมากๆ กลไกของร่างกายจะเป็นตัวสั่งให้เราหยุดโดยอัตโนมัติเองค่ะ
ผิดกับคนที่ตัวอ่อนหรือมีความยืดหยุ่นสูง จากการสอนโยคะทำให้สังเกตเห็นว่า นักเรียนหรือผู้ฝึกที่ตัวอ่อนมักจะชอบทำเยอะ ไม่ว่าจะเหตุผลใด คือ รู้สึกสบาย หรือต้องการแสดงให้เห็นว่าฉันตัวอ่อน แต่หากฝึกแบบไม่มีสติ จะทำให้ผู้ฝึกไปมากเกิน เพราะร่างกายเค้าไม่รู้สึก ยังไปได้อีก และไปได้อีก ร่างกายจึงไม่ได้ส่งสัญญาณเตือนไปยังสมอง เพื่อให้สมองสั่งการว่าให้หยุด หลายคนจึงไปจนเกินพอดี คนตัวอ่อนจะไม่รู้สึกบาดเจ็บในทันทีอย่างคนตัวแข็งค่ะ แต่ถ้าทำแบบเดิมซ้ำๆและบ่อยครั้งเข้าโดยไม่พิจารณาถึงโครงสร้างที่ถูกต้องของร่างกาย ผลเสียที่เกิดขึ้นจะปรากฏในภายหลัง
ไม่ว่าเราจะมีสรีระแบบใด การฝึกโยคะจะต้องมีสติและหาจุดที่พอดี ไม่ทำมากเกินไปหรือน้อยเกินไป เป็นการเรียนรู้ด้วยตัวเองจากการใส่ใจและสังเกตร่างกายอย่างละเอียด เราฝึกโยคะเพื่อให้เราแข็งแรง มีความสุข เพื่อว่าเราจะสามารถใช้ชีวิตประจำวันได้อย่างกระตือรือร้นและเปี่ยมพลัง ไม่ใช่ฝึกแล้วบาดเจ็บ ต้องเสียเงินไปรักษาตัวอีก และหากการบาดเจ็บนั้นรุนแรง เราอาจจะต้องรักษาตัวนาน การเคลื่อนไหวของร่างกายอาจมีปัญหา ส่งผลถึงการใช้ชีวิตและอารมณ์จิตใจของเราอีกด้วยนะคะ
กฏเหล็กที่ควรจำในการฝึกโยคะ คือ safety first ความปลอดภัยต้องมาก่อนเป็นอันดับแรกค่ะ และผลลัพธ์ของโยคะมีสองแบบ เหมือนเหรียญสองด้าน โยคะสามารถส่งผลดีก็ได้ และก่อให้เกิดผลเสียก็ได้เช่นกัน ผลเสียอาจจะมาในรูปแบบที่เห็นได้ทันที หรือ ใช้เวลากว่าจะปรากฏผล
ดังนั้นไม่ว่าจะฝึกโยคะแนวไหน สไตล์ไหน แค่มีสติและคำนึงถึงความปลอดภัย แค่นี้เราก็จะฝึกโยคะได้อย่างมีความสุขและสบายใจแล้วค่ะ
นมัสเต
ครูน้อง

ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น