Into Yoga.....สัมผัสความสุขทุกวันได้ด้วยตัวคุณ

Into Yoga.....สัมผัสความสุขทุกวันได้ด้วยตัวคุณ
ติดต่อ ครูน้อง 089-529 28 90

วันอังคารที่ 28 พฤษภาคม พ.ศ. 2556

การฝึกโยคะเพื่อบรรเทาอาการไซนัสอักเสบ - ตอนที่1


บทความต่างๆในบล็อกได้ความคิดส่วนหนึ่งมาจากนักเรียนโยคะค่ะ  

การฝึกโยคะเพื่อบรรเทาอาการไซนัสอักเสบ 

จุดเริ่มต้นก็มาจากผู้ที่มาเรียนโยคะกับน้องค่ะ เพื่อนของเขาเป็นโรคนี้ บอกว่าเวลาฝึกโยคะท่าที่ห้อยหัวลง อย่างท่ายืนก้มตัว (Standing Forward Bend) รู้สึกทรมาน และปวดศรีษะมาก
ฝากถามว่าจะต้องฝึกอย่างไร และมีอาสนะท่าไหนที่ช่วยรักษาโรคนี้ได้บ้าง

ใครที่เป็นไซนัสคงจะรู้ดีถึงความทรมาน โดยเฉพาะเวลาที่อาการกำเริบ
น้องเลยไปหาข้อมูลมาฝาก หวังว่าคงจะเป็นประโยชน์สำหรับหลายๆคนนะคะ
ตอนที่ 1 - เป็นเรื่องสาเหตุ อาการ และการป้องกัน
ตอนที่ 2 -เป็นการฝึกโยคะเพื่อบรรเทาอาการไซนัส

ส่วนใครที่ไม่เคยเป็น แต่มีอาการปวดหัวรอบๆกระบอกตา จนถึงหน้าผาก แน่นในโพรงจมูก ทำให้หายใจไม่สะดวก ถึงขนาดต้องหายใจทางปาก พอเป็นหวัดก็มักเป็นเรื้อรัง หายยาก ยิ่งถ้าคุณเองเคยมีโรคภูมิแพ้มาก่อน พอเกิดอาการมากๆ มีน้ำมูกไหลออกมา ถ้ามากๆเข้า บางครั้งก็จะไหลลงคอ รักษาไม่ดี จะเกิดการติดเชื้อ ทำให้มีน้ำมูกสีเหลือง หรือสีเขียวขุ่นคลั่กตามมาในที่สุด
อาการดังกล่าว ร่างกายของคุณกำลังบอกว่า คุณคงมีปัญหาเกี่ยวกับโพรงอากาศบริเวณรอบจมูก ที่เรียกกันทั่วไปว่า โรคไซนัส หรือโรคโพรงกระดูกอักเสบ (Sinusitis) 

ไซนัสอักเสบเกิดจากอะไร

          ไซนัสอักเสบ (Sinusitis) จะเกิดขึ้นเมื่อจมูกมีการติดเชื้อ มีการอักเสบ อาจเป็นเพราะอาการหวัด เป็นภูมิแพ้ มีสารระคายเคือง มีสิ่งแปลกปลอมอยู่ในจมูก รวมทั้งการมีฟันกรามผุถึงโพรงรากฟัน การเป็นโรคหัด และเกิดอุบัติเหตุที่กระดูกบนใบหน้า จึงทำให้ท่อที่ติดต่อระหว่างโพรงไซนัส และจมูก เกิดอาการบวมแล้วตีบตัน จนมีน้ำเมือกในโพรงจมูกคั่งค้างอยู่ เมื่อมูกภายในสะสมมากขึ้นจะมีความหนืด และมีสภาพความเป็นกรด ทำให้เชื้อโรคเข้าไปเจริญเติบโตได้ดี จนกลายเป็นภาวะโพรงจมูกอักเสบ หรือ ไซนัสอักเสบ นั่นเอง


ไซนัส แท้จริงแล้วคืออะไร
ไซนัส คือ โพรงอากาศหรือโพรงในกระดูกใบหน้าของเรา โพรงนี้จะเป็นอยู่เป็นคู่ได้แก่ ไซนัสบริเวณแก้ม ไซนัสใต้สันจมูก และไซนัสบริเวณหน้าผาก ทุกโพรงไซนัสจะมีช่องหรือรูระบายลงสู่โพรงจมูกและมีเยื่อบุปกคลุมในโพรงทั้ง หมด
โพรงอากาศไซนัสนี้มีอากาศ บรรจุอยู่เพื่อช่วยทำให้กระดูกกะโหลกศีรษะเบายิ่งขึ้น ส่วนอากาศที่อยู่ในโพรงจมูกและใบหน้าจะช่วยในการเปล่งเสียง ในยามปกติโพรงอากาศเหล่านี้จะบุด้วยเยื่อบุที่ผลิตน้ำเมือกเหนียวใส และมีท่อเปิดเข้าไปในโพรงจมูกตามตำแหน่งต่างๆ นี่คือกลไกธรรมชาติของร่างกายที่จะมีน้ำเมือกที่ไหลออกมาช่วยกวาดล้าง ฝุ่นและเชื้อโรคแบคทีเรียลงสู่กระเพาะอาหาร ซึ่งมีน้ำกรดคอยทำลายเชื้อโรคพวกนี้อีกทอดหนึ่ง น้ำเมือกเหนียวนี้ก็คือ น้ำมูกและส่วนประกอบของเสมหะด้วย
ไซนัสอักเสบคือการอักเสบของเยื่อบุโพรงไซนัสนั่นเอง
ในช่องไซนัสมักจะมีเชื้อโรคอยู่ ถ้าเกิดปัญหาใด ๆ ที่ทำให้น้ำเมือกเหนียวคั่งค้างอยู่ในโพรงอากาศเหล่านี้ เชื้อโรคในโพรงอากาศจะเป็นตัวการสำคัญในการอักเสบของไซนัส หากปล่อยทิ้งไว้โดยไม่รักษาย่อมก่อให้เกิดอาการไม่สบายต่างๆ
ถ้าไม่รักษาไซนัส จะเกิดปัญหาตามมา
โรคหวัด
เมื่อเป็นโรคหวัดธรรมดาๆ จะเป็นจุดเริ่มต้นที่ทำให้เยื่อบุในจมูกและโพรงอากาศบวมขึ้น ทำให้ท่อติดต่อระหว่างโพรงอากาศและจมูกตัน เมื่อน้ำเมือกเหนียวที่ผลิตขึ้นมาโดยเยื่อบุในโพรงอากาศเกิดคั่งค้าง จะเป็นแหล่งเพาะพันธุ์เชื้อร้ายอย่างแบคทีเรียเข้าจู่โจม อาการอักเสบที่สังเกตได้ก็คือลักษณะสีของน้ำมูกจากน้ำใสๆสีขาว ก็จะเปลี่ยนไปเป็นสีเหลืองหรือเขียว ที่ตามมาก็จะมีอาการไม่สบาย ปวดหัว รู้สึกปวดหนักๆตึงๆบริเวณหัวคิ้วและหน้าผาก จมูกตันคัดหายใจได้ลำบาก
โรคภูมิแพ้ 
ถ้าเป็นโรคภูมิแพ้มาก่อน เมื่อหายใจสัมผัสกับอากาศที่มีสารภูมิแพ้จะทำให้ร่างกายเกิดการต่อต้านโดยผลิตสารตัวหนึ่งที่ชื่อว่า ฮิสตามิน (Histamine) ที่จะทำให้เยื่อบุในจมูกและในโพรงอากาศบวม ทำให้น้ำมูกและน้ำเมือกไหลลงสู่ช่องจมูกและช่องปากได้ยาก ทำให้แย่ลงมากกว่าเดิม ถ้าเกิดการอุดตันนานๆแล้วไม่รักษาถ้าคนไข้เกิดการคดงอของสันกลางจมูกจะเกิดเป็นเนื้องอกชนิดธรรมดาที่เรียกว่า ริดสีดวงจมูก (Polyp) ริดสีดวงจมูกนี้อาจมีขนาดใหญ่ จนอุดตันจมูกข้างใดข้างหนึ่ง  
โรคโพรงอากาศอักเสบ
ตัวคุณเองที่เป็นโรคไซนัสอยู่แล้ว เมื่อคุณเป็นหวัดธรรมดา ก็จะทำให้เกิดโรคติดเชื้อในระบบทางเดินลมหายใจส่วนบนได้ง่าย หากปล่อยให้เกิดการอักเสบเรื้อรังหรือเกิดพร้อมกับโรคภูมิแพ้ระยะนานๆ จะทำให้โพรงจมูกพร้อมระบบการทำงานต่างๆถูกทำลาย ถ้าถูกทำลายอย่างถาวรจะทำให้เสียระบบประสาทในการดมกลิ่น ประสิทธิภาพในการหายใจลดลง บางรายถึงกับต้องหายใจทางปากหรือทางจมูกเพียงข้าง เดียว

วิธีป้องกันและลดความเสี่ยง

1)  ดูแลสุขภาพให้แข็งแรง หลีกการเป็นหวัด ไข้หวัดใหญ่ ถ้าเป็นไม่ควรปล่อยให้เป็นเรื้อรัง
2)  ดื่มน้ำเยอะๆ
3)  หลีกเลี่ยงการดื่มแอลกอฮอล์ การสูบบุหรี่หรือ สูดหายใจเอาควันไฟเข้าไป เช่น ไม่จุดธูป-เทียนในที่อับ, ไม่ใช้ฟืนในบ้าน, ไม่เผาขยะ-ใบไม้, จุดยากันยุง (ชนิดขด) ฯลฯ
4)  ดูแลสุขอนามัยในช่องปากและฟัน โดยเฉพาะระวังฟันกรามซี่บนผุ เนื่องจากเชื้ออาจแพร่กระจายไปยังไซนัสได้
5)  ป้องกัน-รักษาโรคภูมิแพ้ โดยเฉพาะภูมิแพ้ที่ทำให้คัดจมูก-น้ำมูกไหล
6)  นอนให้เพียงพอ และไม่นอนดึกเกินไป เพื่อให้ภูมิต้านทานโรคดี  การนอนหัวสูง โดยใช้ไม้หรือแท่นคอนกรีตเสริมเหล็กรองขาเตียงด้านหัวให้สูงขึ้น ไม่ใช่หนุนหมอนหลายใบ (การหนุนหมอนหลายใบเพิ่มเสี่ยงปวดคอ คอเคล็ด) อาจช่วยให้อาการดีขึ้นได้ในบางคน
7)  ออกแรง-ออกกำลังเป็นประจำ โดยเน้นการเดินเร็วและเสริมด้วยขึ้นลงบันไดตามโอกาส หรือฝึกโยคะสม่ำเสมอ (อ่าน การฝึกโยคะเพื่อบรรเทาอาการไซนัสอักเสบ ตอนที่ 2)
8)  ดูแลบ้านและข้าวของเครื่องใช้ เช่น ที่นอน หมอนให้สะอาด อากาศถ่ายเทดี ลดฝุ่นจากไรฝุ่น จากเชื้อรา
9)  ล้างโพรงจมูกด้วยด้วยน้ำเกลือ (ข้อนี้ต้องศึกษาให้ดีก่อนหรือปรึกษาแพทย์ก่อนนะคะ)
10)   หลีกเลี่ยงการว่ายน้ำในสระว่ายน้ำ (มีคลอรีน) คราวละนานเกินไป

 
 การดูแลหลักโดยทั่วไป คือ รักษาสุขภาพร่างกายให้แข็งแรง ไม่ให้เป็นหวัด พักผ่อนให้เพียงพอ กินอาหารที่มีประโยชน์ ออกกำลังกายสม่ำเสมอ งดสูบบุหรี่และเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ พยายามหลีกเลี่ยงสถานที่ที่มีผู้คนแออัด หรือบริเวณที่มีฝุ่นควันมาก ๆ รวมทั้งพยายามรักษาสุขภาพของปากและฟันให้ดี ไม่ให้ฟันผุ และถ้าเป็นหวัดแล้ว ก็รีบรักษาให้หายขาดแต่เนิ่น ๆ

ขอให้ทุกดูแลสุขภาพตัวเองให้ดีนะคะ เราจะใช้ชีวิตให้สนุก และมีความสุขได้อย่างไรหากเรามีปัญหาด้านสุขภาพ

สุขภาพที่ดีมีเงินก็ซื้อไม่ได้ ให้ใครทำแทนก็ไม่ได้ เราเท่านั้นค่ะที่จะต้องดูแลสุขภาพของเราเอง

                                                                                                                                    นมัสเต

 *** ข้อมูลได้มาจาก
-บล็อกโอเคเนชั่นดอทเน็ต   
-บล็อกของนพ วัลลภ พรเรืองวงศ์   
-กระปุกดอทคอม  
ขอขอบคุณมา ณ โอกาสนี้***

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น