Into Yoga.....สัมผัสความสุขทุกวันได้ด้วยตัวคุณ

Into Yoga.....สัมผัสความสุขทุกวันได้ด้วยตัวคุณ
ติดต่อ ครูน้อง 089-529 28 90

วันพฤหัสบดีที่ 11 กรกฎาคม พ.ศ. 2556

การฝึกโยคะสองมิติ กาย-ใจ



                          เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา สอนอาสนะที่เคลื่อนไหวต่อเนื่อง แล้วเอาหลักการการฝึกแบบวินยาสะไปเปรียบเทียบกับการใช้ชีวิต โดยสอนนักเรียนโยคะว่า

                           วินยาสะ คือการเคลื่อนไหวต่อเนื่อง....นั่นคือ การเปลี่ยนแปลง....เราฝึกโยะคะ มีการเข้าท่า ค้างท่า และออกจากท่า เช่นเดียวกันกับชีวิต....มีการเกิด...ตั้งอยู่..และดับไป วนเวียนเช่นนี้

.....บางสิ่งผ่านเข้ามาในชีวิต..... ในไม่ช้าก็จากไป..ทั้งเรื่องดีและเรื่องร้าย ชีวิตเรามีการเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา เราแค่ดูแลให้จิตเราสมดุลย์ และรับมือกับสถานการณ์ต่างๆในชีวิตให้ได้อย่างมีความสุข





                                  การสอนของน้องเหมือนบททดสอบคนสอนด้วยเช่นกัน  เมื่อนักเรียนกลับไปแล้ว น้องฝึกต่อ แต่เกิดความผิดพลาด ล้มกลิ้งลงไป เข่ากระแทกกระจกห้องโยคะแตก....ตอนนั้นนะคะ รู้สึกหงุดหงิดและเซ็งตัวเองมากเลยที่สะเพร่าและประมาท ทำให้ตัวเองจะต้องหาช่างมาเปลี่ยนกระจกใหม่ หงุดหงิดจนต้องรีบส่งแมสเซทหาเพื่อน เล่าความให้ฟัง เพื่อระบายความรู้สึก....เวลาผ่านไปซักครู่ เริ่มคิดได้ว่า เราไม่ควรปล่อยอารมณ์มากไป เรื่องมันเกิดขึ้นแล้ว ก็แก้ไปตามเหตุ และอย่าเก็บเอาอารมณ์บูดเสียไว้กับตัวนานๆจะดีกว่า   ความรู้สึกเริ่มดีขึ้น..ทำให้ย้อนคิดถึงสิ่งที่ตัวเองเพิ่งจะบอกกับนักเรียนไป.....บางที เรารู้นะคะ แต่พอเกิดเรื่องขึ้น ถ้าเราไม่ฝึกจิต เราก็จะปล่อยอารมณ์ให้ถูกพัด ซัดเซไป จนบางทีความรู้สึกขยายไปใหญ่โตเกินเลยความจริง ทั้งที่เรื่องอาจจะแค่นิดเดียวเอง...หรือบางที ใจเราก็เฝ้าเก็บความรู้สึกเอาไว้อีก ทั้งๆที่เรื่องจบสิ้นไปนานแล้ว แต่ใจเรายังไม่ยอมให้มันจบ ก็เลยทุกข์และไม่สบายใจ อยู่นั่นเอง

                                การฝึกโยคะไม่ได้สอนให้เราฝึกแต่เพียงร่างกาย เราควรจะต้องฝึกจิตของเราด้วยค่ะ
การที่เราจะทำท่าอาสนะให้มีความเบาสบาย ผ่อนคลายได้นั้น เราจำเป็นต้องฝึกฝน และใช้เวลากว่าจะถึงเป้าหมายใช่มั้ยคะ เช่นเดียวกัน จิตของเราก็ต้องการการฝึกฝนสม่ำเสมอ และใช้เวลาเช่นกันค่ะ

                              ลองดูการฝึกโยคะทางด้านร่างกาย (อาสนะ) กับการฝึกจิตซักสองสามข้อนะคะ
การฝึกด้านร่างกาย
การฝึกจิต
สร้างความสมดุลย์ ความพอดี
จิตไม่อ่อนไหวไปกับสิ่งเร้า อารมณ์ หรือสถานการณ์ต่างๆ ปรับจิตใจเราได้อย่างสมดุลย์ พอดี
สร้างความยืดหยุ่นให้กับข้อต่อและส่วนต่างๆของร่างกาย
ฝึกจิตให้อ่อนโยน มีเมตตา ยอมรับมุมมองและความคิดที่แตกต่าง ไม่แข็งกระด้าง และจิตใจแคบ
สร้างความแข็งแรงทางกายเพื่อลดการเจ็บไข้ได้ป่วย
ฝึกสร้างจิตที่เข้มแข็ง เพื่อต่อสู่กับอุปสรรคและปัญหาต่างๆได้ดี
ไม่เกิดความตึงเครียด
ผ่อนคลายและเป็นสุข

ลองค้นหาวิธีการและเทคนิคใหม่ๆในการฝึกตัวเองทั้งสองด้านดูนะคะ จำไว้ว่า ครูที่ดีที่สุด ก็คือ ตัวเราเองค่ะ

                                                                                                 นมัสเต

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น