พอพูดถึงความเครียด และหน้าฝน ขอนำข้อคิดดีๆจากหนังสือ Light
on Life ของท่าน บี เค เอส ไอเยนการ์ (แปลโดย ธีรเดช อุทัยวิทยารัตน์) มาฝากให้ทุกคนไปพิจารณาดูนะคะ
ท่านพูดถึงเรื่องความเครียดว่า....
ความเครียดในทางลบ ได้แก่ ความโกรธ ความหวาดกลัว ความรีบเร่ง
ความโลภ ความอยากที่เป็นอกุศลและการแข่งขัน
เหล่านี้สร้างก่อให้เกิดผลเสียต่อร่างกายและจิตใจ
การฝึกโยคะและปราณายามะไม่เพียงลดความเครียด
หากยังทำให้ประสาทและจิตใจมีพลังและมีชีวิตชีวา
และได้ยกอุปมาอุปไมยดังนี้ค่ะ
..............เวลาฝนตกหนัก น้ำไม่จำเป็นต้องซึมลงดินเสมอไป ถ้าผิวดินแห้งและแข็ง
น้ำฝนจะท่วมผิวดินและไหลไป แต่ถ้าฝนค่อยๆตกลงมาติดต่อกันหลายวันและพื้นดินชื้น
น้ำจะซึมลึกลงไปในดิน ซึ่งจะเหมาะสำหรับการเพาะปลูกและเหมาะกับชีวิต
ในตัวเราก็เช่นกัน เราจะต้องทำให้กล้ามเนื้อ
และประสาทชุ่มชื้นผ่านการขยายและการยืดจากอาสนะต่างๆ ด้วยวิธีนี้
ความเครียดซึ่งท่วมท้นอยู่ในสมองจะกระจายไปทั่วร่างกายส่วนอื่นๆ ทำให้สมองได้พักและความเครียดถูกระบายออกไป
และร่างกายได้ปลดปล่อยความเครียดและความตึงผ่านการเคลื่อนไหว ในทำนองเดียวกัน
ในขณะที่เราฝึกปราณายามะแบบต่างๆ ร่างกายทุกส่วนจะได้รับพลัง
เส้นประสาทจะถูกกล่อมเกลา สมองสงบ ความแข็งและความเกร็งของปอดจะหย่อนคลาย
เส้นประสาทถูกทำให้คงอยู่ในสภาพที่ดี มีการสั่นสะเทือนบางอย่าง
ซึ่งคุณสามารถทำให้การสั่นสะเทือนนี้
เป็นจังหวะและละเอียดลึกซึ้งขึ้นในการฝึกอาสนะและปราณายามะ โดยไม่ต้องใช้แรงบังคับหรือทำให้เกิดความเครียด คุณเป็นหนึ่งเดียวกับตัวเองซึ่งเป็นสภวะของสมาธิภาวนาในตัวมันเอง......
หน้าฝน อากาศขมุกขมัว ซึมเซา ทำให้เราไม่ค่อยแอคทีฟ มีชีวิตชีวาซักเท่าไร
น้องจึงตั้งใจที่จะดูแลตัวเองให้ดีขึ้น ด้วยการตื่นแต่เช้ามืด
มาฝึกโยคะค่ะ ตั้งแต่ตีห้าถึงประมาณหกโมงเช้า แล้วอาบน้ำไปทำงาน วันแรกยากมากค่ะ
แต่พอฝึกเสร็จ รู้สึกสดชื่น กระปรี้กระเปร่าขึ้นมาก พอเข้าวันที่สองและสาม
ไม่ค่อยอิดออดในการจะลุกจากเตียงนอนแล้ว เมื่อเราตั้งใจจะฝึกช่วงเช้า
ก็จัดเวลาเข้านอนแต่หัวค่ำ อย่านอนดึกร่างกายจะได้พักผ่อนเพียงพอ
ไม่อย่างนั้นคงตื่นไม่ไหวแน่ค่ะ
ชุดท่าฝึกที่น้องใช้ฝึกอยู่ในช่วงนี้ ก็นำมาจากหนังสือของท่าน
ไอเยนการ์อีกเช่นกัน ชื่อ " Light on Yoga " รู้สึกได้เลยว่าร่างกายเหยียดยืดได้ดีขึ้น
ข้อต่อต่างๆยืดหยุ่นมากขึ้น ลองนำเอาไปฝึกบ้างก็ได้ค่ะ
สามารถปรับเปลี่ยน ตัดทอน ให้เหมาะสมกับตัวเราได้ อย่าลืมนะคะว่า ร่างกาย
ประสบการณ์ในการในการฝึก เพศ วัย ของแต่ละคนแตกต่างกัน ควรฝึกให้อยู่ในความพอดี จะได้ไม่สร้างให้เกิดความเครียดทางกายและใจค่ะ
ช่วงวอร์มอัพ
นั่งหรือยืน
สมาธิ หรือ อาจนั่งในท่าเด็ก
เหยียดยืดสันหลังในท่าชุดพระจันทร์เสี้ยว
(เอียง แอ่น ก้ม)
ไหว้พระอาทิตย์
6-8 รอบ
ท่าอาสนะสำหรับฝึก
1
ท่ายืนด้วยศรีษะ แบบบิด และขาเดียว
2
ท่ายืนด้วยไหล่ เบสิคและ เหยียดแขนขึ้นด้านบน
3
ท่าคันไถ เบสิค งอเข่าแนบหู แยกขา ขาเดียว และขาเดียวด้านข้าง
4
ท่ากอดเข่าชิดอก
5
ท่านอนยกขาและลดขา
6
ท่ากรรไกร ขาเดียวและขาคู่
7
ท่าจักราสนะ
8
ท่าตั๊กแตน
9
ท่าคันศร
10
ท่าไม้กระดาน
11
ท่าจตุรังคะ
12
ท่างู
13
ท่าสุนัขแลขึ้น
14
ท่าสุนัขแลลง
15
ท่านั่งศรีษะจรดเข่า
16
ท่านั่งก้มตัวขาครึ่งดอกบัว
17
ท่ามาริชี 1และ 2
18
ท่านั่งยกขามือจับเท้า 1 และ 2
19
ท่าโลลาสนะ
20
ท่าหัววัวและสิงโต
21
ท่านั่งขัดดอกบัว
22
ท่าโตลาสนะ
23
ท่านักรบนอนหงาย 1 และ 2
24
ท่าอูฐ
25
ท่าเก้าอี้
26
ท่ายืนก้มตัว ยืดหลัง
27
ท่ามาลาสนะ
28
ท่าผีเสื้อ
29
ท่าศพ
สุดท้ายก่อนจะพบกันใหม่ ขอให้ทุกท่านมีสุขภาพกายและใจที่แข็งแรง
ความเครียดลดลง และมีความสุขมากขึ้นค่ะ
นมัสเต
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น