โยคะไม่ใช่การฝึกทางกายเพียงอย่างเดียวค่ะ เพราะความหมายของโยคะ คือการรวมกันเป็นหนึ่งเดียวของกาย ใจ และจิตวิญญาณ การที่เราจะรู้สึกถึงประสบการณ์ของความเป็นหนึ่งเดียวของตัวเราได้นั้น เราควรจะฝึกมีประสบกาณ์ในด้านต่างๆของโยคะด้วยค่ะ

6 ประสบการณ์ของโยคะ

1 มีชีวิตอยู่กับปัจจุบัน   ใช้เวลาในปัจจุบันให้เต็มที่ และดีที่สุดเท่าที่ทำได้ อดีตจบไปแล้ว อนาคตเป็นเพียงจินตนาการ

2 จดบันทึก  ง่ายๆเพียงนั่งลง มีสมุดกับปากกาแล้วปล่อยให้ตัวตนภายในของเราไหลผ่านจากหัวใจสู่แขน แล้วไปสู่มือที่จับปากกา สิ่งสำคัญคือ อย่าตัดสินหรือวิพากษ์วิจารณ์สิ่งที่เราจด เพราะนั่นเป็นสิ่งที่ออกมาจากภายในตัวตนของเรา และสะท้อนตัวตนที่แท้จริงของเรา เราเป็นอย่างที่เราเป็น

3 กินอย่างมีสติ  ชีวิตสมัยใหม่ที่เร่งรีบทำให้เราหลงลืมการขอบคุณ  โยคะสอนให้เราละเว้นการกินเนื้อสัตว์ ย ควรฝึกขอบคุณอาหารที่เรากินเข้าไป

4 ไฟแห่งจิตวิญาณ ไม่ใช่ความร้อนที่เกิดขึ้นกับร่างกายเวลาฝึกโยคะ แต่เป็นการโน้มนำความจดจ่อของเรากลับเข้าสู่ภายใน นำเอาพลังงานของเราจุดไฟแห่งจิตวิญญาณ  นั่นคือ ไม่เสียเวลากับคำพูดด้านลบ ความคิดและการกระทำที่ไม่ดี  สั้นๆคือ คิดดี ทำดี พูดดี

5 มุ่งมั่น  จงมุ่งมั่นในการฝึกและเดินไปบนเส้นทางแห่งจิตวิญญาณ นี่คือกุญแจสำคัญของความสำเร็จในการฝึกโยคะ ในหะฐะโยคะ ความมุ่งมั่น คือ การฝึกโยคะ 6 วันต่ออาทิตย์ นำเอาโยคะสุตรามาใช้ในการดำเนินชีวิต สร้างความมุ่งมั่นทำได้โดย เลือกการฝึกทางจิตวิญญาณง่ายๆหนึ่งอย่าง เช่น นั่งสมาธิ จดบันทึก หรือ สังเกตลมหายใจ ประมาณ 3 นาทีในแต่ละวัน และให้แน่ใจว่า เราจะสามารถทำให้ได้ทุกวันโดยไม่มีข้อแม้หรือไม่ว่าจะเกอะไรขึ้นก็ตาม

6 ปล่อยวาง แม้ว่าความมุ่งมั่นเป็นข้อหนึ่งในการฝึกโยคะ แต่เราต้องไม่ยึดติดกับผลลัพธ์จากการฝึก โยคะสุตราสอนว่าภาพลวงตาของการแสดงความเป็นเจ้าของ หรือการครอบครองเป็นเหตุแห่งความทุกข์   ชีวิตเป็นสิ่งชั่วคราว ไม่จีรัง จงมีชีวิตและปล่อยวาง เพื่อเปิดรับประสบการณ์ด้านนี้ของโยคะ ลองเอาความหนักอึ้งของจิตใจออกไป โดยการให้อภัยต่อผู้ที่เรามีความโกรธแค้น  วิธีนี้จะช่วยให้เราพ้นจากทุกข์อันไม่สิ้นสุดได้

ประสบการณ์ทั้ง 6 แบบของโยคะสามารถนำมาใช้ในชีวิตประจำวันได้ค่ะ เพราะโยคะคือรูปแบบหนึ่งในการดำเนินชีวิตอย่างมีความสุข

นมัสเต

ครูน้อง